Element Ball
1. บทนำ

ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศรวมทั้งระบบสื่อสารได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทำให้การเข้าถึง การเก็บรวบรวม การใช้และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล สามารถทำได้โดยง่าย สะดวก และรวดเร็วอันอาจนำมาซึ่งความเสียหายต่อเจ้าของข้อมูล

บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Privacy Policy) ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานสำคัญ ในความเป็นส่วนตัว (Privacy Right) ที่ต้องได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและหลักปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (Universal Declaration of Human Rights) ซึ่งบุคคลใดจะถูกแทรกแซงตามอำเภอใจในความเป็นส่วนตัว ครอบครัวที่อยู่อาศัย หรือการสื่อสารหรือจะถูกลบหลู่เกียรติยศและชื่อเสียงไม่ได้
ทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองของกฎหมายต่อการแทรกแซงสิทธิหรือการลบหลู่ดังกล่าวนั้นรวมถึงเพื่อสนับสนุนและเคารพการปกป้องสิทธิมนุษยชนตามที่ประกาศใช้ในระดับสากลตามหลักการของข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ
(UN Global Compact) รวมถึงกฎหมายที่ว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลบริษัทเคารพในสิทธิส่วนบุคคลและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการจึงได้ประกาศนโยบายเพื่อเป็นหลักในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ของผู้ใช้บริการ ดังนี้

2. ขอบเขตการใช้
  1. ให้ประกาศฉบับนี้ มีผลใช้บังคับกับคณะกรรมการ กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกระดับของ บริษัท เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป จำกัด และบริษัทย่อย รวมถึงคู่ค้า ผู้ให้บริการ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัท
    1. ให้ประกาศฉบับนี้ มีผลใช้บังคับกับทุกกิจกรรมการดำเนินงานของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลเป็นต้นว่า ช่องทางการจัดเก็บข้อมูล ประเภทและรูปแบบของข้อมูลที่จัดเก็บ วัตถุประสงค์ของบริษัทในการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ การแบ่งปันข้อมูลดังกล่าวให้กับบุคคลอื่น ตลอดจนวิธีการที่บริษัทดำเนินการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ
3. คำนิยาม
บริษัท บริษัท เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป จำกัด และบริษัทย่อย
บริษัทย่อย บริษัทจำกัด ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัท
ผู้ใช้บริการ ประกอบด้วย  ลูกค้า และผู้ติดต่อบริษัท ทางเว็บไซต์ หรือบริการอื่นใดของบริษัท
ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุถึงตัวบุคคลนั้นได้ เป็นต้นว่า ชื่อ สกุล ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด เพศ ประวัติการศึกษา หมายเลขโทรศัพท์ เลขประจำตัวประชาชน เลขหมาย รหัส และให้หมายความรวมถึงข้อมูลอื่นใดเกี่ยวกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ซึ่งให้ทำสามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม โดยไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ที่ถึงแก่กรรม
การรักษาความลับ คือ การรับรองว่าจะมีการเก็บข้อมูลไว้เป็นความลับ และผู้มีสิทธิเท่านั้นจึงจะเข้าถึงข้อมูลนั้นได้
การรักษาความสมบูรณ์ (Integrity) คือ การรับรองว่าข้อมูลจะไม่ถูกเปลี่ยนแปลงหรือทำลายไม่ว่าจะเป็นโดยอุบัติเหตุหรือโดยเจตนา
เจ้าของข้อมูล บุคคลที่ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นระบุไปถึง 
บุคคล บุคคลธรรมดาที่มีชีวิตอยู่ ไม่รวมถึงนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย เช่น บริษัท, สมาคม, มูลนิธิ หรือองค์กรอื่นใด
4. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลให้กระทำได้ภายใต้วัตถุประสงค์และเพียงเท่าที่จำเป็นตามกรอบวัตถุประสงค์หรือเพื่อประโยชน์ที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมโดยบริษัทเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการโดยผู้ใช้บริการเป็นผู้ให้ข้อมูลกับบริษัท หรือร้องขอการบริการจากบริษัทผ่านช่องทางเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่นบนมือถือ หรือช่องทางอื่นใดของบริษัทตัวอย่างเช่น การนัดหมายแพทย์ การทำธุรกรรมแบบออนไลน์ การสมัครรับจดหมายข่าวสารการขอรับความช่วยเหลือพิเศษ รวมไปถึงการทำธุรกรรมแบบออฟไลน์ เช่น การลงทะเบียนที่เคาน์เตอร์ลงทะเบียนของคลีนิคและบริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการจากบุคคลที่สาม เช่นบริษัท/โรงพยาบาลในเครือข่าย ธุรกิจในเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการของบริษัท 

โดยประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากคุณจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของการเก็บรวบรวมและประเภทของบริการที่คุณร้องขอจากบริษัทข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจะถูกนำมาใช้เพื่อให้การทำธุรกรรมออนไลน์หรือออฟไลน์หรือบริการที่ได้รับการร้องขอเสร็จสมบูรณ์ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมโดยตรงจากคุณ หรือจากบุคคลที่สาม มีดังนี้

  • ข้อมูลระบุตัวตน เช่น ชื่อ ภาพถ่าย เพศ วันเดือนปีเกิด หนังสือเดินทาง หมายเลขบัตรประชาชน หรือหมายเลขที่สามารถระบุตัวตนอื่นๆ
  • ข้อมูลสำหรับการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และอีเมล
  • ข้อมูลการชำระเงิน เช่น ข้อมูลการเรียกเก็บเงิน ข้อมูลบัตรเครดิตหรือเดบิต และรายละเอียดบัญชีธนาคาร
  • ข้อมูลการเข้ารับบริการ เช่น ข้อมูลการนัดหมายแพทย์ ข้อมูลส่วนบุคคลของญาติ ความต้องการเกี่ยวกับห้องพัก อาหาร โรงแรม และบริการเสริมอื่นๆ
  • ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด เช่น ข้อมูลการลงทะเบียนเพื่อร่วมกิจกรรมกับบริษัท
  • ข้อมูลสถิติ เช่น จำนวนผู้ใช้บริการ และการเข้าชมเว็บไซต์
  • ข้อมูลจากการเข้าใช้เว็บไซต์ของบริษัท เช่น IP Address, Cookies, Online Appointment System
  • ข้อมูลด้านสุขภาพรายงานที่เกี่ยวกับสุขภาพกาย และสุขภาพจิต การดูแลสุขภาพของท่าน ผลการทดสอบจากห้องทดลอง และการวินิจฉัย
  • ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาและการแพ้ยาของท่าน
  • ข้อมูล Feedback และผลการรักษาที่ท่านให้ไว้

บริษัทจะไม่เก็บและใช้ข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนของคุณ เช่น เชื้อชาติ ความเชื่อทางศาสนา ประวัติอาชญากรรมเว้นแต่เป็นไปตามที่ข้อบังคับและกฎหมายกำหนด หรือโดยความยินยอมของคุณ

5. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์ที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมและต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลที่ให้ไว้ก่อน หรือในขณะนั้น เว้นแต่ในกรณีดังต่อไปนี้ ไม่จำเป็นต้องขอความยินยอม

  • จัดหาบริการหรือส่งมอบบริการของบริษัท
  • นัดหมายแพทย์ ส่งข่าวสาร แนะนำบริการของบริษัท
  • การประสานงานและส่งต่อข้อมูลให้กับบริษัท/โรงพยาบาลเครือข่ายซึ่งจะช่วยให้การส่งต่อผู้ใช้บริการ มีความรวดเร็วขึ้น
  • การยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการ
  • ส่งข้อความแจ้งเตือนการนัดหมายแพทย์หรือการเสนอความช่วยเหลือจากบริษัท
  • อำนวยความสะดวกและนำเสนอรายการสิทธิประโยชน์ต่างๆแก่ผู้ใช้บริการ
  • จุดประสงค์ด้านการตลาดการส่งเสริมการขาย และการลูกค้าสัมพันธ์ เช่น การส่งข้อมูลเกี่ยวกับโปรโมชั่นผลิตภัณฑ์และบริการ รายการส่งเสริมการขาย และธุรกิจพันธมิตร
  • เพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสารตอบคำถาม หรือตอบสนองข้อร้องเรียน เช่น การเรียกร้องสัมภาระหรือความสูญหายใดๆ
  • สำรวจความพึงพอใจของลูกค้าวิจัยตลาด และวิเคราะห์ทางสถิติ เพื่อเป็นข้อมูลในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการหรือสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ
  • วัตถุประสงค์ทางบัญชีหรือทางการเงิน เช่น การตรวจสอบการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต การเรียกเก็บเงินและการตรวจสอบความถูกต้อง การขอคืนเงิน
  • รักษาความปลอดภัย รวมถึงความปลอดภัยขณะพักรักษาอยู่ในบริษัท
  • ปฏิบัติตามกฎของบริษัท
  • ปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อกำหนด ระเบียบ ข้อบังคับ หรือการร้องขอใดๆจากหน่วยงานภาครัฐ เช่น การปฏิบัติตามหมายเรียกพยาน หรือคำสั่งศาล หรือการร้องขออื่นๆที่ถูกต้องตามกฎหมาย
  • วัตถุประสงค์อื่นๆที่สนับสนุนการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ข้างต้นหรือที่ได้รับความยินยอมจากคุณเป็นครั้งคราว
6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจะเปิดเผยหรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไปยังบุคคลที่สาม ซึ่งอาจอยู่ภายในหรือภายนอกประเทศไทย โดยบริษัทจะดำเนินตามมาตรการที่จำเป็นและเหมาะสม หรือเป็นไปตามข้อบังคับและกฎหมาย เพื่อวัตถุประสงค์ที่ตามระบุไว้ข้างต้น ให้แก่

  • โรงพยาบาลเครือข่าย ธุรกิจคู่ค้า และธุรกิจพันธมิตร
  • บริษัทในเครือ ตัวแทน ผู้ให้บริการ หรือคู่ค้าที่ให้บริการแก่บริษัท
    หรือดำเนินการใดๆในฐานะตัวแทนของบริษัท เช่น ผู้ให้บริการด้าน IT
  • หุ้นส่วนทางธุรกิจ เช่น โรงแรม บริษัทรถเช่า บริษัทประกันพันธมิตรที่เข้าร่วมรายการโปรแกรมสะสมคะแนนและสิทธิประโยชน์ และบริษัทอื่นๆที่เกี่ยวข้องในการให้บริการลูกค้า หรือตอบสนองความต้องการของลูกค้า
  • ธนาคารและผู้ให้บริการชำระเงิน เช่น บริษัทบัตรเครดิต หรือเดบิต
  • เจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงและความปลอดภัย
  • หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองและหน่วยงานศุลกากร
  • หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานอื่นๆ ตามที่กฎหมายอนุญาต หรือกำหนดไว้
7. การเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์บุคคลที่สาม

เว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นบนมือถือของบริษัทอาจมีลิงค์เชื่อมไปยังเว็บไซต์บุคคลที่สาม หากคุณไปตามลิงค์เหล่านี้ นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ ไม่มีผลกับเว็บไซต์บุคคลที่สามโปรดทราบว่าบริษัทไม่สามารถรับผิดชอบใดๆ ต่อการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการโดยบุคคลที่สามดังกล่าว เนื่องจากอยู่นอกการควบคุมของบริษัท กรุณาตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัวของแต่ละเว็บไซต์ที่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ

8. คุณภาพของข้อมูลส่วนบุคคล

คุณภาพของข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมนั้นต้องถูกต้องทันสมัย สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด เว้นแต่จะมีกฎหมายกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น

9. การรักษาความมั่นคงปลอดภัย

เพื่อประโยชน์ในการรักษาความลับ และความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทได้มีมาตรการ ดังนี้

  1. กำหนดสิทธิในการเข้าถึง การใช้ การเปิดเผย การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการแสดงหรือยืนยันตัวบุคคล ผู้เข้าถึงหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ตามแนวนโยบายสารสนเทศของบริษัทอย่างเคร่งครัด
    1. ในการส่ง การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ รวมถึงการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บบนฐานข้อมูลในระบบอื่นใด ซึ่งผู้ให้บริการรับโอนข้อมูลหรือบริการเก็บรักษาข้อมูลอยู่ต่างประเทศ
      ประเทศปลายทางที่เก็บรักษาข้อมูลต้องมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เทียบเท่าหรือดีกว่ามาตรการตามนโยบายนี้
    2. ในกรณีที่มีการฝ่าฝืนมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของบริษัท จนเป็นเหตุให้มีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล หรือข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหลสู่สาธารณะ บริษัทจะดำเนินการแจ้งเจ้าของข้อมูลให้ทราบโดยเร็ว รวมทั้งแจ้งแผนการเยียวยาความเสียหายจากการละเมิดหรือการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลสู่สาธารณะในกรณีที่เกิดจากความบกพร่องของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทจะไม่รับผิดชอบในกรณีความเสียหายใดๆ อันเกิดจากการใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคลที่สาม รวมถึงการละเลย หรือเพิกเฉยการออกจากระบบ (Logout) ฐานข้อมูล หรือระบบสื่อสารสังคมออนไลน์ของบริษัท โดยการกระทำของเจ้าของข้อมูล
      หรือบุคคลอื่นซึ่งได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล
    3. บริษัทมีการดำเนินการสอบทานและประเมินประสิทธิภาพของระบบรักษาข้อมูลส่วนบุคคลโดยหน่วยงานตรวจสอบภายใน
10. ความรับผิดชอบของบุคคล

บริษัทกำหนดให้พนักงานหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล ต้องให้ความสำคัญและรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายและแนวปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้อย่างเคร่งครัด
โดยมีสายงานสารสนเทศและหน่วยงาน Corporate Legal & Compliance ซึ่งทำหน้าที่กำกับดูแลภาพรวมตามนโยบายให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิผล

11. สิทธิของเจ้าของข้อมูล

เจ้าของข้อมูลมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตน ขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล ระงับการใช้ชั่วคราว ตลอดจนสิทธิในการขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลให้ถูกต้อง ทันสมัย และสมบูรณ์อยู่เสมอ

ทั้งนี้ เป็นไปตามที่กฎหมายที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดเว้นแต่เป็นการขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติแห่งกฎหมายการกระทบต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร กระทบต่อเศรษฐกิจและการพาณิชย์ของประเทศมีผลต่อการสืบสวนสอบสวนของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล หรือกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น โดยเจ้าของข้อมูลสามารถติดต่อบริษัทได้ที่

บริษัท เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป จำกัด

อาคารอัมรินทร์พลาซ่า ชั้น 17 เลขที่ 496-502 ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน จังหวัดกรุงเทพฯ 10330

E-mail : info@safefertilitycenter.com

โทร : +662 252 3833-35

12. บทกำหนดโทษ

ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินงานเรื่องใดเรื่องหนึ่งตามหน้าที่ของตน หากละเลย หรือละเว้นไม่สั่งการหรือไม่ดำเนินการ หรือสั่งการ หรือดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งในหน้าที่ของตน อันเป็นการฝ่าฝืนนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลจนเป็นเหตุให้เกิดความผิดตามกฎหมายและ/หรือความเสียหายขึ้นผู้นั้นต้องรับโทษทางวินัยตามระเบียบของบริษัท โดยบริษัทจะไม่ประนีประนอมให้กับความผิดใดๆ ที่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบได้กระทำขึ้นและผู้นั้นต้องรับโทษทางกฎหมายตามความผิดที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ หากความผิดดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัทและ/หรือบุคคลอื่นใด บริษัทอาจพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายเพิ่มเติมต่อไป

13. การทบทวนนโยบาย

บริษัทอาจทำการทบทวนนโยบายนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของการให้บริการ และการดำเนินงานของบริษัท ข้อเสนอแนะและความคิดเห็นของผู้ใช้บริการ รวมถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยนโยบายเวอร์ชั่นล่าสุดจะประกาศบนเว็บไซต์ของบริษัทที่ www.safefertilitycenter.com เพื่อให้ผู้ใช้บริการทราบแนวทางที่บริษัทใช้ในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ

หากมีข้อเสนอแนะ และข้อร้องเรียนเกี่ยวกับนโยบายนี้ โปรดติดต่อบริษัทได้ที่อีเมล info@safefertilitycenter.com

นโยบายนี้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2563