15.03.67

อยากมีลูกทำอย่างไรดี เตรียมความพร้อมด้วยวิธีธรรมชาติและเทคโนโลยี

อยากมีลูกทำอย่างไรดี เตรียมความพร้อมด้วยวิธีธรรมชาติและเทคโนโลยี

อยากมีลูกต้องทำอย่างไร? คำถามที่พบบ่อยสำหรับคู่รักที่อยากมีลูกและต้องการตั้งครรภ์ แม้จะพยายามสักเท่าไร ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จสักที อาจเป็นเพราะสาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากพฤติกรรม และปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่ส่งผลต่อภาวะการตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะเป็นความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการตั้งครรภ์, ความพร้อมทางด้านสุขภาพร่างกาย, การรับประทานอาหาร และการพักผ่อน รวมถึงสภาพจิตใจที่กังวลมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เสี่ยงต่อการประสบปัญหาภาวะมีบุตรยากได้

ศูนย์บริการดูแลผู้มีบุตรยากจาก SAFE Fertility Group ได้รวบรวมเคล็ดลับเตรียมความพร้อมสำหรับคนอยากมีลูกว่าต้องทำอย่างไร ตลอดจนแนะนำวิธีมีลูกด้วยการตั้งครรภ์ทางธรรมชาติ และการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ เพื่อประโยชน์ต่อการวางแผนมีบุตรในอนาคต ตลอดจนเพิ่มโอกาสการมีลูกได้ง่ายขึ้น

การเตรียมตัวสำหรับคนอยากมีลูก

การเตรียมตัวสำหรับคนอยากมีลูกเบื้องต้นควรพิจารณาจากการตรวจสุขภาพร่างกายทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง เพื่อตรวจหาความผิดปกติ หรือภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งซึ่งอาจส่งผลต่อการตั้งครรภ์ในอนาคตได้ หากพบเจอความผิดปกติควรรีบทำการรักษาก่อนวางแผนการมีลูก ซึ่งการเตรียมตัวสำหรับคนอยากมีลูกด้วยวิธีธรรมชาติสามารถปฏิบัติตามได้ ดังต่อไปนี้

1.วางแผนการมีบุตรตั้งแต่เนิ่น ๆ

การวางแผนมีบุตรล่วงหน้าจะช่วยเพื่อโอกาสการมีลูกง่ายขึ้น และลดความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดโรคแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์ โดยฝ่ายหญิงที่อยู่ในช่วงอายุ 20-35 ปี ถือเป็นช่วงอายุที่เหมาะสมกับการตั้งครรภ์มากที่สุด เนื่องจากอยู่ในช่วงเจริญพันธุ์ที่ไข่มีคุณภาพดี และมีสภาพร่างกายที่แข็งแรง ทำให้มีโอกาสตั้งครรภ์ที่สมบูรณ์ แต่หากฝ่ายหญิงมีอายุมากกว่า 35 ปี อาจเสี่ยงต่อภาวะมีบุตรยากได้ การมาพบแพทย์เพื่อวางแผนก่อนการตั้งครรภ์สำหรับผู้หญิงวัยนี้ถือว่ามีความจำเป็น

อายุมากขึ้นแต่อยากมีลูกทำไง? อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อมมีบุตรตอนนี้แต่อยากมีลูกก็สามารถเลือกฝากไข่  (Egg Freezing) สำหรับวางแผนมีลูกในอนาคตได้ ซึ่งการฝากไข่เป็นการแช่แข็งไข่ที่มีความสมบูรณ์ เพื่อรักษาคุณภาพเซลล์ไข่ในช่วงนั้นๆเอาไว้ เพื่อใช้สำหรับการตั้งครรภ์ในอนาคตด้วยวิธีการทำเด็กหลอดแก้วอย่าง IVF  และ ICSI  นอกจากนี้ยังเป็นวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดความผิดปกติของลูกที่เกิดมา และช่วยเพิ่มโอกาสแก่ฝ่ายหญิงที่อยากท้องในอนาคตได้อย่างปลอดภัย

2. นับวันไข่ตก เพื่อมีเพศสัมพันธ์ให้ถูกวัน

การนับวันตกไข่ในรอบเดือนของผู้หญิงนั้นนับเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่สามารถเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์สำหรับคู่สมรสที่อยากมีลูกได้ ด้วยการมีเพศสัมพันธ์ก่อนช่วงวันตกไข่ประมาณ 1-2 วัน เพื่อให้ไข่ที่ตกออกมาเจอกับอสุจิแล้วทำการปฏิสนธิต่อกันจนเกิดการตั้งครรภ์นั่นเอง

โดยวันเวลาไข่ตกอาจแตกต่างกันไปตามบุคคล แต่สำหรับผู้หญิงที่ประจำเดือนมาเป็นปกติ หรือมาอย่างสม่ำเสมอทุก 28 วัน อาจทำให้ทราบช่วงไข่ตกที่แน่นอนได้ ซึ่งไข่จะตกประมาณ 14 วันแรกก่อนประจำเดือนรอบใหม่ และช่วงที่ไข่พร้อมรอการผสมจะมีเพียงแค่ 12-24 ชั่วโมงเท่านั้นต่อรอบเดือน

วิธีการคำนวณวันไข่ตกสามารถพิจารณาตามง่าย ๆ ได้ตามนี้

  • หารอบเดือน ด้วยการนับย้อนวันจากวันแรกที่มีประจำเดือนในเดือนล่าสุด จนถึงวันแรกที่มีประจำเดือนของเดือนก่อนหน้า เช่น วันที่ 12 เม.ย. คือเดือนล่าสุด วันที่ 14 มี.ค. คือเดือนก่อนหน้า ดังนั้น จะมีความยาวรอบเดือน 30 วัน
  • หาวันไข่ตก ด้วยการนำความยาวรอบเดือน (วัน) - ระยะเวลาไข่ตก (14วัน) = วันไข่ตก เช่น หากมีความยาวรอบเดือน 30 วัน ก็จะมีวันไข่ตกเป็นวันที่ 16 ของความยาวรอบเดือน

ทั้งนี้ การคำนวณวันไข่ตกใช้ได้กับผู้หญิงที่มีประจำเดือนมาอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งควรจดบันทึกวันแรกของการมีประจำเดือนอย่างต่อเนื่อง 8-12 เดือน เพื่อให้ทราบช่วงไข่ตกและความยาวรอบเดือนที่แน่นอน

3. ความถี่ในการมีเพศสัมพันธ์

สำหรับความถี่ที่เหมาะสมในการมีเพศสัมพันธ์ของคู่รักที่อยากมีลูกนั้น ควรอยู่ที่จำนวน 2 วันต่อครั้ง หรือ วันเว้นวัน มากกว่าการมีเพศสัมพันธ์ทุกวัน เนื่องจากอาจทำให้ร่างกายทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงเกิดความเหนื่อยล้า ซึ่งนำมาสู่ความเครียดวิตกกังวลได้ และอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของน้ำเชื้ออสุจิทำให้หลั่งออกมาในปริมาณน้อยลง

สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งคือ การนับวันไข่ตกของฝ่ายหญิงโดยให้มีเพศสัมพันธ์ก่อนวันไข่ตก 1-2 วัน เพราะจะช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์มากกว่าการมีเพศสัมพันธ์หลังวันไข่ตกนั่นเอง ดังนั้น คู่รักที่อยากติดลูกง่ายก็ควรหมั่นออกกำลังกายเพื่อดูแลสุขภาพ และมีเพศสัมพันธ์อย่างเหมาะสมด้วยเช่นกัน

4. ลดความเครียด

ปัจจัยสำคัญอีกหนึ่งอย่างที่ส่งผลต่อการมีลูกของฝ่ายหญิงก็คือ สุขภาพด้านจิตใจ หากมีความเครียดหรือความวิตกกังวลสะสมมากเกินไป อาจส่งผลต่อฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะฮอร์โมนระบบสืบพันธุ์ ทำให้ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ และเกิดภาวะการตกไข่ที่ผิดปกติทำให้ได้ไข่ที่มีคุณภาพน้อยลง สำหรับฝ่ายชายอาจส่งผลให้ฮอร์โมนเพศอย่างเทสโทสเตอโรนลดน้อยลง ทำให้การสร้างน้ำเชื้ออสุจิและความแข็งแรงของอสุจิไม่เป็นไปตามธรรมชาติ

ด้วยสาเหตุนี้อาจทำให้มีลูกได้ยากขึ้น ดังนั้น ผู้ที่อยากมีลูกจึงควรหาวิธีลดความเครียดด้วยการหากิจกรรมผ่อนคลาย ปรับพฤติกรรมบางอย่างเพื่อส่งเสริมทัศนคติและอารมณ์เชิงบวกให้มากขึ้น โดยสามารถลองทำตามได้ ดังนี้

  • ทำจิตใจให้สงบด้วยการทำสมาธิ การเล่นโยคะ
  • หากิจกรรมผ่อนคลายช่วยเสริมสร้างด้านความคิดสร้างสรรค์ เช่น จัดดอกไม้, วาดภาพ, ฟังเพลง, ทำอาหาร เป็นต้น
  • พบปะกลุ่มเพื่อนเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พูดคุยให้กำลังใจกันและกัน
  • ออกกำลังกายเพื่อให้เกิดความรู้สึกสดชื่นแทนความเครียด

5. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

นอกเหนือจากการปฏิบัติตามวิธีการมีลูกแบบธรรมชาติตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว หากคู่รักที่อยากมีลูกยังไม่มีแนวโน้มการตั้งครรภ์หลังปฏิบัติตามเป็นระยะเวลานาน ก็ควรปรึกษากับแพทย์ผู้ชำนาญการด้านมีบุตรยากโดยเฉพาะ เพื่อช่วยวางแผนการตั้งครรภ์ของคู่รัก และช่วยวิเคราะห์สาเหตุความผิดปกติจากปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มโอกาสในการมีลูกมากขึ้น

โดยทาง SAFE Fertility Group เองก็มีบริการให้คำปรึกษาสำหรับคนที่อยากมีลูกและผู้มีบุตรยาก ตั้งแต่ให้คำแนะนำการเตรียมความพร้อมร่างกายของคู่รักไปจนถึงการใช้นวัตกรรม และเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยวางแผนการตั้งครรภ์อย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีช่วยให้มีบุตรง่ายขึ้น

อีกหนึ่งวิธีสำหรับใครที่อยากมีลูกนอกจากใช้วิธีทางธรรมชาติแล้ว การใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์เข้ามาช่วยการตั้งครรภ์ถือเป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันมีเทคนิคหลายรูปแบบที่ช่วยให้คุณมีลูกได้อย่างปลอดภัย และเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการตั้งครรภ์สูงมากขึ้น มีวิธีดังต่อไปนี้

1. การฉีดน้ำเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูก (IUI)

IUI (Intrauterine insemination) คือ การตั้งครรภ์ด้วยการฉีดน้ำเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูกโดยตรง ซึ่งน้ำเชื้ออสุจิจำเป็นต้องผ่านกระบวนการคัดเลือกคุณภาพ และความแข็งแรงเพื่อให้อสุจิกับไข่เกิดการปฏิสนธิจนเกิดการตั้งครรภ์นั่นเอง โดยแพทย์จะทำการฉีดผ่านท่อพลาสติกขนาดเล็กเพื่อให้น้ำเชื้อเข้าไปในโพรงมดลูก ซึ่งถือเป็นวิธีการแก้ปัญหาสำหรับผู้มีบุตรยากที่ใกล้เคียงกับวิธีทางธรรมชาติมากที่สุด โดยมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการรักษาโดยวิธีเด็กหลอดแก้ว 

2. การทำเด็กหลอดแก้ว หรือ IVF

สำหรับ IVF (In-Vitro Fertilization) หรือการทำเด็กหลอดแก้ว เป็นกระบวนการทางแพทย์ที่ใช้เทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์มาแก้ไขปัญหาแก่คู่สมรสภาวะมีบุตรยาก ผู้ที่วางแผนอยากมีลูก รวมถึงผู้ที่ยังไม่พร้อมมีบุตร ด้วยการนำเอาอสุจิ และไข่มาปฏิสนธิกันภายนอกในห้องปฏิบัติการ เพื่อให้ได้ตัวอ่อนที่มีคุณภาพและสมบูรณ์ที่สุด หลังจากนั้นจึงค่อยฉีดกลับเข้าไปในโพรงมดลูกฝ่ายหญิงอีกครั้งเพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์

แต่สำหรับบางคนอาจต้องการเพียงตัวอ่อนที่มีคุณภาพแล้วแช่แข็งเอาไว้เพื่อรอวันที่ตนเองพร้อมจะมีลูกในอนาคต ทั้งนี้ IVF มีราคา ที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับแต่ละสถานพยาบาลและขั้นตอนการรักษาของแต่ละบุคคล

3. อิ๊กซี่ หรือ ICSI

ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) หรือที่เรียกกันว่า อิ๊กซี่ ก็เป็นหนึ่งในวิธีการทำเด็กหลอดแก้วซึ่งเหมาะสำหรับคู่รักที่อยากมีลูก โดยฝ่ายชายมีอสุจิที่ไม่แข็งแรงและปริมาณน้อยกว่าเกณฑ์ที่กำหนด โดยจะคัดเลือกอสุจิที่มีความแข็งแรงมากที่สุดเพียง 1 ตัวมาทำการฉีดเข้าไปยังไข่ของฝ่ายหญิงโดยตรงด้วยเข็มขนาดเล็ก เพื่อช่วยให้เกิดการปฏิสนธิที่รวดเร็วมากขึ้น และมีแนวโน้มการตั้งครรภ์ง่าย แม้ ICSI ราคา ค่อนข้างสูงแต่สามารถเพิ่มโอกาสให้การมีลูกเป็นสิ่งที่ง่ายขึ้นด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย

สรุปเคล็ดลับของคนอยากมีลูก

สำหรับใครที่กำลังอยากมีลูกก็สามารถเริ่มต้นเตรียมความพร้อมด้วยวิธีทางธรรมชาติที่ส่งเสริมสุขภาพร่างกายทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงให้พร้อมกับการมีลูกไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบวันไข่ตก เพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์จากการมีเพศสัมพันธ์มากขึ้น การพิจารณาความถี่ในการมีเพศสัมพันธ์ที่เหมาะสม ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป มิเช่นนั้นอาจทำให้เกิดความเครียดซึ่งส่งผลต่อระดับฮอร์โมนในระบบสืบพันธุ์ได้

แต่หากวิธีดังกล่าวยังไม่ช่วยในการตั้งครรภ์ก็ควรเลือกใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์สำหรับวางแผนการมีลูกแทน ที่สามารถมอบผลลัพธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้ทาง SAFE Fertility Group เข้ามาให้คำแนะนำและคำปรึกษาแก่ผู้ประสบปัญหาภาวะมีบุตรยากกับแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์มากกว่า 15 ปี พร้อมวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพและเทคโนโลยีทันสมัย ให้การมีลูกของคุณเป็นเรื่องง่ายด้วยการดูแลจากเรา